MAJOR CINEPLEX ー โรงภาพยนตร์ที่สร้างสายสัมพันธ์ให้กับครอบครัวในบรรยากาศสุดหรูหรา

โรงภาพยนตร์ที่สร้างสายสัมพันธ์ให้กับครอบครัวในบรรยากาศสุดหรูหรา

ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด (Chief Marketing Officer) : นรุตม์ เจียรสนอง


“Major Cineplex”ก่อตั้งมาแล้วกว่า 25 ปี เป็นผู้ถือหุ้นกว่า 70% ของโรงภาพยนตร์ในประเทศไทย และในปัจจุบันไม่ได้มีเพียงแค่โรงภาพยนตร์เท่านั้น แต่ยังขยายธุรกิจไปถึงแหล่งบันเทิงอย่างลานโบว์ลิ่งและลานไอซ์สเก็ต รวมถึงยังมีส่วนร่วมในการสร้างภาพยนตร์อีกด้วย และในวันนี้เราก็จะมาพูดคุยกับคุณนรุตม์ ผู้อยู่เบื้องหลังกิจกรรมมากมายเหล่านี้กัน

แรงจูงใจในการเข้าสู่วงการธุรกิจ
– บริษัทของเราครองส่วนแบ่งทางการตลาดกว่า 70% ของอุตสาหกรรมภาพยนตร์ในประเทศไทย มีสาขาทั้งในและนอกประเทศกว่า 150 สาขา เช่น ลาว กัมพูชา รวมให้บริการโรงภาพยนตร์กว่า 800 จอ นอกเหนือจากนี้ยังมีการสร้างภาพยนตร์ด้วย ไม่เพียงแต่ส่งผลงานภาพยนตร์เข้าฉายที่ประเทศไทยเท่านั้น แต่ยังส่งไปฉายทั่วโลก เช่น ฮอลลีวูด เป็นต้น แรกเริ่มเราได้สร้างสาขาแรกขึ้นที่ปิ่นเกล้า โดยการทำเป็นอาคาร Stand Alone มีความสูง 7ชั้น ร้านค้าภายในอาคารจะมีแค่ร้านค้าที่เกี่ยวข้องกับโรงภาพยนตร์เท่านั้น โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ลูกค้าทานข้าว ช็อปปิ้ง นั่งรอระหว่างเข้าชมภาพยนตร์ อีกทั้งสามารถใช้เวลาตลอดวันเพลิดเพลินไปกับสถานที่แห่งนี้ กลายเป็นต้นแบบในการทำธุรกิจแบบ Stand Alone

จุดเด่นที่ที่แตกต่างจากบริษัทอื่นคืออะไร
– โรงภาพยนตร์ของเรามีจุดเด่น คือ การมีพื้นที่ส่วนรวมที่กว้างขวาง ถ้าเป็นโรงภาพยนตร์ของต่างประเทศ พอซื้อตั๋วเสร็จก็ต้องเข้าชมในโรงเลย เพราะว่าค่าเช่าที่ดินของต่างประเทศมีราคาสูง แต่ว่าโรงภาพยนตร์ของเรา ไม่ว่าสาขาไหนก็ตามจะมีพื้นที่ส่วนล้อบบี้ให้นั่งเล่นก่อนดูหนังได้ นอกจากนี้ หลังจากดูหนังจบก็ยังสามารถมานั่งพูดคุยกันเกี่ยวกับเรื่องที่ดูได้อีกด้วย อีกทั้งสถานที่ก็ให้ความรู้สึกเหมือนอยู่ในโรงแรมหรู จึงถือว่าเป็นจุดเด่นของเราอย่างหนึ่งที่ไม่เหมือนใคร

กลยุทธ์สำหรับเชิญชวนให้คนมาดูภาพยนตร์
– จากที่ทางเราทำการสำรวจมาพบว่ากลุ่มลูกค้าที่มาดูภาพยนตร์เป็นกลุ่มอายุช่วง 18-35 ปี และเรายังสำรวจต่อไปอีกว่าแล้วทำไมกลุ่มคนที่อายุมากกว่า 35 ปีขึ้นไปถึงไม่พาเด็กมาดูด้วยกัน จึงพบว่าสำหรับคนที่มีลูก จะกังวลใจหลายอย่างที่จะพาลูกมาดูภาพยนตร์ด้วย เช่น เด็กกลัวผีที่ออกมาในตัวอย่างโฆษณาภาพยนตร์ และกลัวเสียงดังหรือวิ่งไปทั่วเป็นการรบกวนลูกค้าคนอื่น เมื่อเห็นแบบนี้เราจึงคิดทำ “Kids Cinema” ขึ้นมาที่ไม่ใช่แค่ตัดปัญหาเรื่องเสียงที่ดังหรือโฆษณาที่มีผีออกไป แต่เรายังเตรียมพื้นที่ส่วนรวมที่จะมีทั้งเวิร์คช็อป มีเกมส์ให้เล่น โซนวาดรูประบายสี หรือเตรียมมาสคอตมาเพื่อความเพลิดเพลินด้วย นอกจากนี้เรายังสร้างห้องน้ำสำหรับเด็กขึ้นมาเพื่อให้ผู้ปกครองสามารถใช้โอกาสนี้ในการสอนเด็กๆ ผ่านทางการทำกิจกรรมครอบครัวได้ ภายในโรงภาพยนตร์เรามีพี่เลี้ยงคอยดูแลเด็กๆ ดังนั้นผู้ปกครองก็สามารถสบายใจได้เลยเมื่อพาเด็กๆ มาที่นี่ หลังจากมีโรงภาพยนตร์สำหรับเด็กที่ผู้ปกครองสามารถใช้เวลาร่วมกับเด็กๆ ได้ก็พบว่ากลุ่มลูกค้าที่เป็นเด็กของเรามีเพิ่มขึ้น ถ้าเปรียบเทียบกับการพาไปคอนเสิร์ตหรืออีเวนท์ต่างๆ อาจจะต้องเสียค่าใช้จ่ายเป็นพันบาท แต่ถ้าพามาที่นี่จะเสียค่าตั๋วเพียง 200 บาทแถมยังเล่นไปพร้อมกับชมภาพยนตร์ได้อีกด้วย

แนวโน้มอุตสาหกรรมภาพยนตร์
– บัตรสมาชิก M-PASS สำหรับนักศึกษาที่มีอายุระหว่าง 13 -23 ปีบริบูรณ์ สามารถสมัครได้ในราคา 2,400 บาท ใช้สิทธิ์ชมภาพยนต์ได้ตลอด 360 วัน โดยสามารถชมภาพยนต์ได้ 30 รอบต่อเดือนในปีที่ผ่านได้รับกระแสตอบรับดีมาก โดยมีผู้สมัครสมาชิก M-PASS ถึง 100,000 คน เราจึงมีแผนจะทำบัตรสมาชิกที่สามารถใช้งานได้แม้กระทั่งผู้ที่มีอายุ 24 ปีขึ้นไป ในราคา 3,600 บาทต่อปีหรือ 300 บาทต่อเดือน แพ็กเกจดูหนังรายเดือนนี้ จะทำให้การไปโรงภาพยนต์เหมือนกับการไปฟิตเนส และมีการแนะนำภาพยนตร์เข้าใหม่ให้กับสมาชิก ผ่านโซเชียลเน็ตเวิร์คซึ่งเป็นช่องทางสำคัญในการกระจายข้อมูลข่าวสาร อีกทั้งยังมีระบบภาพยนต์อัจฉริยะ ที่ใช้ระบบ AI คัดสรรภาพยนต์เรื่องโปรดให้แก่สมาชิก

โดยส่วนตัวอยากให้โรงภาพยนตร์เป็นแบบไหน
– สถานที่ที่เป็นความสุขนอกบ้านครับ บ้านและคอนโดมีเนียมสมัยนี้มีพื้นที่แคบ ถ้าจ่ายเงินเพิ่มสักนิดแล้วออกมาดูภาพยนตร์ในโรงที่มีพื้นที่กว้างขวาง ก็จะสนุกไปกับภาพยนตร์ได้มากขึ้น ภาพยนตร์นั้นเป็นมากกว่าความบันเทิง เพราะเป็นสิ่งที่สร้างความฝันให้เราครับ โดยเฉพาะเด็กๆเมื่อได้ชมภาพยนตร์ก็จะเกิดความรู้สึกว่าอยากทำอาชีพต่างๆ เกิดความกล้าหาญหรืออยากทำในสิ่งที่ท้าทาย เป็นต้น ซึ่งผมคิดว่าเป็นเรื่องที่ยอดเยี่ยมมากๆครับ อีกทั้ง ถ้าหากครอบครัวไปดูหนังด้วยกัน นอกจากเป็นการใช้เวลาร่วมกันแล้ว การพูดคุยกันถึงความรู้สึกเกี่ยวกับภาพยนตร์ที่ดูก็จะช่วยทำให้สายสัมพันธ์ในครอบครัวแน่นแฟ้นมากยิ่งขึ้น ซึ่งผมอยากจะสร้างบรรยากาศแสนวิเศษแบบนี้ต่อไปอีกเรื่อยๆครับ

ในวันหยุดก็ใช้เวลาพักผ่อนด้วยการดูหนัง หลังจากนั้นก็ใช้เวลาผ่อนคลายไปกับกิจกรรมที่สนใจ


Major Cineplex
02-515-5555
1839, 1839/1-1839/6 Phaholyothin Rd., Ladyao, Jatuchak, Bangkok
www.majorcineplex.com

Share this article.

PAGE TOP